ดอกไม้สวยๆ ปลูกง่ายแถมยังกินได้ด้วย เป็นที่รู้กันดีว่าดอกไม้เป็นพืชที่มีความสวยงาม ปลูกง่าย ดูแลเอาใจใส่สักหน่อยก็สวยแล้วและยังสามารถเอาไปตกแต่งภายในบ้านหรือเอาไปให้คนรักในโอกาสที่พิเศษ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากที่เราได้กล่าวมาในเบื้องต้นนั้นดอกไม้สวยๆบางชนิดยังสามารถเอาไปรับประทานได้อีกด้วย และ มีบางชนิดที่คนนิยมเอามาตกแต่งจานอาหารด้วย แต่ก็ไม่ใช่ดอกไม้ทุกชนิดจะกินได้ ยังไงก็ควรศึกษาข้อมูลก่อนว่าชนิดใดบ้างที่สามารถกินได้และกินไม่ได้

ดอกไม้ชนิดไหนเอาไปทำอะไรได้บ้าง?พร้อมวิธีปลูก
ดอกไม้สวยๆ ปลูกง่ายแถมยังกินได้ด้วย รู้ไหมคะว่าจริง ๆ แล้ว ดอกไม้จัดสวนของเราสามารถนำมาประกอบอาหารรับประทานได้ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด จะมีชนิดไหนบ้างไปดูกัน…
- กุหลาบ

ฉันเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักดอกกุหลาบ ดอกไม้แห่งความรักที่มีสีสันสดใส อย่าง สีแดง สีชมพู สีขาว สีเหลือง เป็นต้น ซึ่งต้องบอกว่านอกจากจะใช้จัดสวน ตกแต่งบ้าน หรือมอบให้กับคนที่คุณรักในโอกาสสำคัญแล้ว กุหลาบยังกินได้ โดยเมนูกุหลาบพิเศษสำหรับคนไทย ต้องยกให้การนำกลีบดอกกุหลาบไปชุบแป้งทอด หรือนำไปใส่ในแกงต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาสกัดเป็นชาอีกด้วย
วิธีปลูก : แม้กุหลาบจะออกดอกได้ดีในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว แต่ก็สามารถปลูกดอกกุหลาบได้ทั้งปี โดยดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วน ดินเหนียวผสมดินร่วน หรือดินเหนียวผสมทราย และแน่นอนว่าดินต้องระบายน้ำได้ดี นอกจากนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ปลูกได้รับแสงแดดที่เหมาะสม ซึ่งถ้าปลูกไว้ใกล้แหล่งน้ำได้ ก็จะดีมาก ในเรื่องของการรดน้ำ ควรให้น้ำในระบบน้ำหยดหรือรดน้ำ หรือถ้าพื้นที่ปลูกไม่มากก็ให้รดอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง โดยช่วงหน้าร้อนควรจะรดตอนแดดจัด ๆ แต่ถ้าเป็นหน้าฝน อาจจะเปลี่ยนเป็นรดน้ำวันเว้นวัน หรือรดแค่ในวันที่ฝนไม่ตกก็ได้ นอกจากนี้กุหลาบยังเป็นพืชที่ถูกรบกวนจากศัตรูพืชและเชื้อราได้ง่าย ทางที่ดีควรหมั่นตรวจดูแลต้นกุหลาบเป็นประจำ หากพบแมลงให้กำจัดทันที
- ดอกบัว

ดอกบัว เป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดินในน้ำ แต่มีก้านบางส่วนและดอกจะลอยขึ้นเหนือน้ำ ส่วนดอกมีหลายสี แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ เป็นดอกไม้ที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบเอาไปไหว้พระ หรือนำดอกบัวไปตากให้แห้งดื่ม และเอามาชงดื่ม ซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ ลดน้ำหนัก และปรับปรุงระบบสืบพันธุ์ของคุณ หรือหากใครสนใจนำกลีบบัว มาทำอาหารก็สามารถทำเป็นเมนูที่เมี่ยงกลีบบัวได้ ส่วนอื่นๆ สามารถรับประทานได้ เช่น เมล็ดบัว หรือรากบัว สำหรับใบบัวสามารถห่ออาหารได้ เช่น ข้าวห่อใบบัว เป็นต้น
วิธีปลูก : การปลูกบัวปลูกได้ทั้งในดินแห้งและดินโคลน โดยปลูกได้ทั้งดินร่วนและดินเหนียวที่มีหน้าดินเป็นโคลนตมไม่หนา แต่บัวจะเจริญเติบโตในดินเหนียวได้ดีกว่า หากปลูกในดินร่วนก็ให้ใบเยอะกว่า โดยจะใช้วิธีแยกเหง้า ยาวประมาณ 2-3 ข้อ มีตาประมาณ 2-3 ตา แล้วนำปักลงไปในหลุมหรือในดิน แต่ให้ข้อเหนือดินประมาณ 1-2 ข้อ จากนั้นก็ปล่อยน้ำให้สูงกว่าปลายเหง้าบัวเล็กน้อย จากนั้นรอให้ต้นบัวเริ่มงอกและตั้งตัวได้จึงปล่อยน้ำเข้าแปลงอีกครั้ง
- ดอกเฟื่องฟ้า

เฟื่องฟ้า เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ใบเดี่ยว รูปไข่ ส่วนดอกประกอบไปด้วยใบประดับ ช่อดอก และใบดอกหลากสี เช่น สีแดง สีชมพู สีขาว สีเหลือง สีส้ม ส่วนที่คนส่วนใหญ่นำมาทานชุบแป้งทอด หากอยากให้การทานดอกเฟื่องฟ้ามีประโยชน์แบบสุด ๆ ขอแนะนำให้ทานดอกสีแดง สีชมพู หรือสีม่วง เพราะดอกเฟื่องฟ้าทั้ง 3 สีนี้ จะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยป้องกันมะเร็งได้สูง
วิธีปลูก : เฟื่องฟ้าสามารถปลูกได้หลายวิธี แต่ที่นิยมที่สุดคือการปักชำ เนื่องจากประหยัด เร็ว และง่าย โดยวิธีการปลูกจะนำกิ่งแก่ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ควรตัดในช่วงที่ยังไม่ออกดอก มาปักลงในดินผสมอินทรีย์วัตถุ เช่น แกลบ ขี้เถ้า ขี้เลื่อย หรือขี้วัว หลังจากนั้นก็เพียงแค่รดน้ำวันละครั้งทุกวัน เพียงไม่นานต้นเฟื่องฟ้าก็จะเริ่มโตแล้ว ทว่าควรระวังอย่าให้มีน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้ต้นเฟื่องฟ้าไม่ออกดอกหรือตายได้ แล้วก็อย่าลืมหมั่นกำจัดหนอน เพลี้ยอ่อน และผีเสื้อกลางคืนที่อาจมารบกวนต้นเฟื่องฟ้าด้วย
- ดอกอัญชัน

อัญชันเป็นไม้เลื้อย เถาอ่อนและมีขนาดเล็ก เลื้อยไปได้ไกลถึง 20 ฟุต ใบค่อนข้างกลม มีขนปกคลุมทั่ว ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีน้ำเงิน สีม่วง หรือสีขาว มีทั้งแบบดอกชั้นเดียวและแบบดอกซ้อนกัน จุดเด่นอยู่ที่การนำอัญชันมาสกัดเป็นสีผสมอาหาร ช่วยให้อาหารมีสีสันน่าทานขึ้น รวมถึงการนำดอกไปทำน้ำอัญชัน ก็อร่อยและได้ประโยชน์ไม่แพ้เครื่องดื่มอื่น ๆ ด้วย
วิธีปลูก : แค่มีรั้วหรือไม้ให้ต้นอัญชันเลื้อยก็สามารถนำต้นกล้าหรือเมล็ดมาปลูกที่บ้านได้แล้ว เพราะพืชชนิดนี้เป็นพืชที่ขึ้นได้ง่ายมาก แถมออกดอกตลอดทั้งปี และไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงมารบกวน แต่หากใครอยากจะปลูกอัญชันให้เจริญเติบโตได้ดี แนะนำให้เพาะเมล็ดในดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมักกับปุ๋ยคอก แล้วรดน้ำให้ชุ่มประมาณวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น รวมถึงควรปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดด แต่ไม่จัดเกินไป ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน จึงจะเริ่มออกดอก
- ดอกโสน

ดอกโสน มีอีกชื่อหนึ่งซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่า ผักฮองแฮง เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 2-4 เมตร แตกกิ่งค่อนข้างน้อย เปลือกไม้สามารถลอกเป็นเส้นใช้แทนเชือกได้ ใบดูคล้ายใบมะขาม ในฝักเรียวยาวคล้ายถั่วฝักยาว มีดอกมีสีเหลือง ลักษณะคล้ายดอกแค แต่มีขนาดเล็กกว่า และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายประเภททั้งผัด แกง ทอด เช่น ไข่เจียวดอกโสน ลาบดอกโสน แกงดอกโสน ยำดอกโสน ดอกโสนผัดน้ำมันหอย เป็นต้น
วิธีปลูก : ดอกโสนสามารถขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่หากจะปลูกทำได้โดยการเพาะเมล็ด ควรปลูกในดินชื้น พื้นที่ลุ่ม ริมน้ำ เพราะต้นโสนจะเติบโตเองได้ดีจากฝนที่ตกหรือการซึมของบ่อน้ำ ทว่าถ้าบ้านไม่ใครมีแหล่งน้ำ ก็สามารถปลูกโสนในดินที่มีความชื้นน้อยได้เหมือนกัน แต่ต้องคอยรดน้ำบ่อยหน่อย หากใครอยากให้ต้นโสนเจริญงอกงามได้ดี นักวิจัยจากศูนย์พันธ์วิศวกรรมแห่งชาติก็แนะนำว่า ให้นำเมล็ดโสไปน้ำร้อนสักประประมาณ 10 นาทีก่อน จากนั้นก็นำไปแช่ในน้ำกรดแบตเตอร์รี่สัก 30 นาที เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้โสนงอกงามพร้อมกัน อีกทั้งยังแก้ปัญหาดินเค็มและช่วยกำจัดศัตรูพืชอีกด้วย
ข้อสรุปดอกไม้สวยๆ ปลูกง่ายๆ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับข้อมูลเหล่านี้เราหวังว่าคุณจะเข้าใจ และก็สามารถเอาไปทำตามกันได้ ซึ่งพืชแต่ล่ะอย่างที่เราได้นำมาบอกนั้นเป็นพืชที่ปลูกง่ายมาก ไม่ค่อยมีปัญหา และบางชนิดก็สามารถเติบโตได้เองอีกด้วย และยังมีหลากหลายเมนูที่คุณต้องลองทำ รับลองว่าดอกไม้เหล่านี้หากคุณได้ริมลอง คุณจะต้องติดใจ….